จะดีกว่ามั้ยหากเราไม่ได้ปล่อยให้เรื่องการดูแลความปลอดภัยในโลก digital เป็นหน้าที่ของภาครัฐ หรือหน่วยงานด้านกำกับดูแลเพียงลำพัง
จะดีกว่ามั้ยถ้าเรามีเครื่องมือที่จะคอยบอกให้เรารู้ว่า ทุกความเคลื่อนไหวของเราเปิดโอกาสให้ถูกโจมตี หรือในขณะเดียวกัน จะเป็นการผิดกฏเกณฑ์ หรือข้อบังคับต่างๆ บ้างหรือไม่
และจะดีกว่ามั้ยถ้าพวกเราเป็นคนทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้จริงๆ
กฎหมาย, ผู้ควบคุมด้านกฏหมาย และผู้บังคับใช้นโยบาย สามารถตอบสนองต่อการเปิดรับทางดิจิทัลเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วได้ทันท่วงทีเพียงใด?
ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของไซเบอร์มีเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงขึ้ทุกวัน ซึ่งมันถูกขับเคลื่อนด้วยสังคมที่มีการเชื่อมต่ออย่างสูง และความนิยมในการใช้ Cloud Service และจากปัญหาพื้นๆ เช่น Cloud infrastructure ที่ไม่มีประสิทธิภาพ จนถึงพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงจากทั้งผู้ให้บริการและผู้ใช้งานเองความเสี่ยงนั้นเพิ่มสูงขึ้นมากในโลก IoT และที่สำคัญกว่านั้นคือปัจจัยที่ต่างๆที่เอื้อให้อาชญากรไซเบอร์โจมตีเป้าหมายที่อยู่นอกเหนืออำนาจศาล ทำให้การการป้องกันดูแลความปลอดภัย (Policing) เป็นไปได้ยากที่สุด
มันจะดีกว่าไหม ถ้าเรามีตำรวจดิจิทัล ที่ช่วยเฝ้าระวังข้อมูล และเครือข่ายต่างๆ สำหรับทั้งระดับองค์กรและบุคคลทั่วไป และ Policing ไม่เพียงแค่จะช่วยป้องกันและแก้ไขเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างความตระหนักแก่เจ้าของบัญชีทุกคน - ซึ่งก็คือมนุษย์นั่นเอง
How fast of the laws, regulators, and policy enforcers can react on the fast pace of digital technology adoption?
Cybersecurity risk is increasing, driven by super highly connected societies and the Cloud services popularity. From the very basic problem like poor configuration of Cloud infrastructure to the misbehaviors from both service providers and the users themselves.
The risk is getting much higher in the IoT world, and more importantly the ability for cybercriminals to attack targets outside their jurisdiction making policing extremely difficult
What if we have the digital police to surveillance the applications, data, and networks for enterprise accounts and individuals', and the policing is not only for prevention and correction but also to help create awareness to the account owners – human.